งานวิจัยพบ รับประทานโปรไบโอติกวันละ 50,000 ล้าน CFU ช่วยรักษาสิวได้ - Interpharma Group

งานวิจัยพบ รับประทานโปรไบโอติกวันละ 50,000 ล้าน CFU ช่วยรักษาสิวได้

"สิว" นับเป็นหนึ่งในโรคผิวหนังที่สามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย แม้จะมีความเข้าใจว่าเป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยในกลุ่มวัยรุ่น แต่ในวัยผู้ใหญ่เองก็ยังสามารถเกิดปัญหาสิวได้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาจ่งผลกระทบต่อผิวในระยะยาว เช่น รอยสิว ไปจนถึงแผลเป็นหลุมสิว ส่งผลกระทบต่อจิตใจและทำให้ขาดความมั่นใจได้หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง

.

การรักษาสิวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นตามมาภายหลัง ทั้งจากการใช้ยาภายนอกและยารับประทาน เช่น ยากลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอ Isotetrinoin และยาปฏิชีวนะ ซึ่งการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียง เสี่ยงต่อการดื้อยาและยังทำลายจุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อประจำถิ่น ในปัจจุบันจึงมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาแนวทางอื่น ๆ ในการรักษาทดแทน ซึ่งได้ค้นพบว่าการรับประทานโปรไบโอติกเป็นหนึ่งในแนวทางที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาสิวได้เช่นกัน

.

เนื่องจากโปรไบโอติกจะเข้าไปปรับสมดุลภายในลำไส้โดยลดการดูดซึมของสารพิษ (1) ลดสิวอุดตันได้โดยการลดระดับฮอร์โมน IGF-1 ทำให้ลดการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังบริเวณรูขุมขน (2) นอกจากนี้โปรไบโอติกยังสามารถลดสาร Substance P ทำให้เซลล์ผลิตไขมันลดลง (3) จากการค้นพบเหล่านี้ทำให้นักวิจัยศึกษาเพิ่มเติมเพื่อค้นหาว่าแล้วต้องรับประทานโปรไบโอติกในปริมาณเท่าใดจึงจะเหมาะสม และพบว่าปริมาณ 50,000 CFU คือปริมาณที่มีแนวโน้มที่จะช่วยลดจำนวนสิวอักเสบ สิวอุดตันและสิวทั้งหมดได้ดี

.

โดยนักวิจัยได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการรับประทานโปรไบโอติกในการรักษาสิวระหว่างขนาด 50,000 ล้าน CFU และขนาด 100,000 ล้าน CFU เพื่อหาปริมาณของโปรไบโอติกที่เหมาะสมในการรักษาสิวในกลุ่มผู้ป่วยอาสาสมัครเพศหญิงและชายอายุ 20 - 40 ปีที่มีสิวบริเวณใบหน้า และมีความรุนแรงของสิวเล็กน้อยถึงปานกลางจำนวน 22 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับโปรไบโอติก 50,000 ล้าน CFU และกลุ่มที่ได้รับ 100,000 ล้าน CFU เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์

.

ผลวิจัยพบว่า การรักษาสิวระดับน้อยถึงปานกลางโดยการรับประทานโปรไบโอติกทั้ง 2 กลุ่มนั้นมีแนวโน้มที่จะช่วยลดจำนวนสิวอักเสบ สิวอุดตัน และสิวทั้งหมดได้ดีทั้ง 2 กลุ่ม แม้การรับประทานโปรไบโอติกในปริมาณ 100,000 ล้าน CFU จะมีแนวโน้มช่วยให้ได้รับผลการรักษาที่ดีกว่าแต่ก็ยังไม่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

.

ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว การรับประทานโปรไบโอติกจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยในการรักษาได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยดูแลในเรื่องของสิวแล้ว ยังส่งผลดีต่อระบบอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ช่วยปรับสมดุลลำไส้ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้ต่าง ๆ ฯลฯ จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลสุขภาพเช่นกัน

.

ด้วยความปรารถนาดี

Interpharma Thailand

 

อ้างอิง:

- ณัฐชา หมื่นอนันต์. (2566). การเปรียบเทียบประสิทธิผลของการรับประทานโปรไบโอติกในการรักษาสิว ระหว่างขนาด 5 หมื่นล้านซีเอฟยูและขนาด 1 แสนล้านซีเอฟยู (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). เชียงราย: มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

(1) Cani PD, Delzenne NM. The role of the gut microbiota in energy metabolism and metabolic disease. Curr Pharm Des. 2009;15(13):1546-58.

(2) S.H. Kang, J.U. Kim, J.Y. Imm, S. Oh, S.H. Kim, The Effects of Dairy Processes and Storage on Insulin-Like Growth Factor-I (IGF-I) Content in Milk and in Model IGF-I–Fortified Dairy Products, Journal of Dairy Science, Volume 89, Issue 2, 2006, Pages 402-409.

Fabbrocini G, Bertona M, Picazo Ó, Pareja-Galeano H, Monfrecola G, Emanuele E. Supplementation with Lactobacillus rhamnosus SP1 normalises skin expression of genes implicated in insulin signalling and improves adult acne. Benef Microbes. 2016 Nov 30;7(5):625-630.

(3) Gueniche A, Benyacoub J, Philippe D, Bastien P, Kusy N, Breton L, Blum S, Castiel-Higounenc I. Lactobacillus paracasei CNCM I-2116 (ST11) inhibits substance P-induced skin inflammation and accelerates skin barrier function recovery in vitro. Eur J Dermatol. 2010 Nov-Dec;20(6):731-7.