ท้องผูกเรื่องใหญ่ ถ่ายสบายก็หายป่วย

“ท้องผูกเรื่องใหญ่ ถ่ายสบายก็หายป่วย”
อาการท้องผูก อุจจาระไม่ออก อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเจ็บป่วย!

ท้องผูก ไม่อุจจาระหลายวัน ปวดศีรษะบ่อย สิวขึ้น ไม่สดชื่น อ่อนเพลียง่าย คุณอาจเริ่มสงสัยว่าเพราะทำงานหนักไป ไม่ค่อยได้นอน กินอาหารไม่เพียงพอ ซึ่งก็น่าจะมีส่วน… แต่สาเหตุที่แท้จริงคือ ‘คุณกำลังรับพิษจากอุจจาระที่ตกค้างในลำไส้’

ในทางการแพทย์ปัจจุบันมีแพทย์ที่สนใจศึกษาเรื่องลำไส้ที่มีอุจจาระตกค้างว่าเกี่ยวพันกับโรคอย่างจริงจัง ยกตัวอย่างเช่น นายแพทย์ชินย่า ชาวญี่ปุ่น ได้ศึกษาลำไส้ของผู้คนกว่า 3 แสนราย พบว่าลำไส้ของคนที่มีสุขภาพดีจะมีลักษณะแตกต่างกับคนป่วย โดยผู้ที่มีอาการป่วยเรื้อรัง มักมีลำไส้สีซีดจางหรือคล้ำ มีเส้นเลือดขอด และที่สำคัญ ‘มีอุจจาระตกค้างในลำไส้’

‘อุจจาระ’ ถ้าตกค้างอยู่ในร่างกายจะเกิดพิษจากการหมักหมม บูดเน่าของกากอาหารในลำไส้ ทำให้เซลล์ในร่างกายสะสมพิษมากขึ้นเรื่อยๆ จนก่อให้เกิดสารพัดโรค ตั้งแต่เล็กน้อย เช่น มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก ท้องอืด ปวดศีรษะ จนถึงมะเร็งลำไส้

โรคที่เกิดได้จากอุจจาระตกค้างในลำไส้จนเกิดพิษ เช่น สิว ฝ้า ผิวพรรณหยาบกร้าน ปวดศีรษะ เหนื่อย อ่อนเพลียตลอดเวลา เบื่ออาหาร หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ ปวดหลัง ปวดเอว ท้องอืด ท้องเฟ้อ หายใจมีกลิ่นตัวเหม็น กลิ่นตัวแรง อุจจาระตกค้างบ่อยๆ ก็จะเป็นตัวก่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะเซลล์ผนังลำไส้ใหญ่สัมผัสกับพิษเป็นเวลานานๆ

กุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพ คงความหนุ่มสาว คือการทำให้ “อุจจาระ” ออกจากร่างกายให้เร็วที่สุด ถ้าวันนี้คุณใส่ใจเรื่องการขับถ่าย จะถือเป็นหนทางสู่สุขภาพดี 90% แล้ว

“Check List อุจจาระตกค้างจากอาการท้องผูกและท้องผูกเรื้อรัง”
ถ้ามี 2 ใน 3 ของอาการนี้ สันนิษฐานไว้ก่อนว่าลำไส้คุณกำลังมีปัญหาแล้ว

– คุณมีอาการถ่ายไม่ออกเกิน 3 วัน หรือไม่ได้ถ่ายทุกวันเป็นประจำ

– เบ่งอุจจาระยาก ต้องเบ่งมาก เจ็บเวลาเบ่ง ปวดท้อง

– อุจจาระมีลักษณะแข็งมาก

– ต้องใช้ยาระบายเพื่อให้ถ่ายเป็นประจำ

– มีสิวขึ้นเรื้อรังแม้ไม่ใช่ช่วงวัยรุ่น มีฝ้า ผิวหยาบกร้าน

– รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา ปวดหลัง ปวดเอว แบบไม่มีสาเหตุ เจ็บป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันไม่ดี

– ถ้ามีอาการท้องผูกเป็นๆ หายๆ เกิน 6 เดือนแสดงว่าคุณอาจกำลังเป็นท้องผูกเรื้อรังจากการสูญเสียโปรไบโอติก!

“ยาระบายอาจไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน”

เวลาถ่ายไม่ออกเรามักนึกถึงยาระบาย ซึ่งปัจจุบันหาซื้อได้ง่ายมากตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายยาทั่วไป ซึ่งเวลาถ่ายไม่ออกส่วนมากเราก็มักจะไม่ไปพบแพทย์กัน แต่เลือกซื้อยาระบายมาทานกันเอง แต่รู้หรือไม่ว่าการพึ่งยาระบายเป็นประจำทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ!

การใช้ยาระบายบ่อยๆ อาจทำให้การทำงานของลำไส้ผิดปกติ เพราะลำไส้จะคุ้นชินกับการกระตุ้นของยา จนถึงขั้นถ้าไม่ทานยากระตุ้น ลำไส้ก็จะเกิดอาการขึ้เกียจ ไม่ทำงานขึ้นมาเฉยๆ

ถ้าเริ่มมีอาการดังกล่าวแล้วยังฝืนทานยาต่อไป อาจทำให้ลำไส้ไม่ทำงานถาวร จนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้นจากลำไส้ไม่ทำงาน

“โปรไบโอติก ทางเลือกเพื่อการขับถ่ายที่ยั่งยืน
.
ปัจจุบันแพทย์หลายท่านที่ใส่ใจเรื่องปัญหาลำไส้จะเลือกให้ผู้ป่วยท้องผูกทาน “โปรไบโอติก (Probiotic)” หรือแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ ซึ่งช่วยให้การทำงานของลำไส้เป็นปกติ มีส่วนช่วยอย่างมากให้เกิดการขับถ่ายเป็นประจำ


แบคทีเรียโปรไบโอติก (Probiotic) มีส่วนช่วยในการทำงานของลำไส้โดยสังเคราะห์กรดอะมิโนที่จะกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ผลิตแก๊สที่ช่วยผลักดันอุจจาระและขจัดเชื้อโรคออกจากลำไส้ เพิ่มมวลและความนุ่มให้กับอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายได้สะดวก

มีนักวิทยาศาสตร์ ชื่อ Dr. R.H.Siver ได้พยายามศึกษาการใช้ประโยชน์ของโปรไบโอติก เพื่อรักษาผู้มีปัญหาลำไส้ทำงานไม่ปกติ ซึ่งก็ได้ผลดี แถมได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงคือ การรักษาดังกล่าวกลับเป็นประโยชน์ของผิวหน้าของผู้ป่วยที่เป็นสิวให้กลับดีขึ้นถึง 80% ภายใน 1-2 สัปดาห์ ดังนั้นการมีแบคทีเรียโปรไบโอติกในลำไส้ใหญ่มากเท่าใด ยิ่งทำให้เรามีสุขภาพดีเท่านั้น

รีวิวจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จริง

ปรึกษาอาการ และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ

Line@ : แอดเป็นเพื่อน เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ  https://lin.ee/uwjol1V หรือ @Interpharma
หรือ Facebook Inbox : https://m.me/interpharma.th
โทรสอบถามเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ 094-9569536