หน้าที่ของตับ กับการกำจัดสารพิษ

หน้าที่ของตับ กับการกำจัดสารพิษ

ในทุก ๆ วันเราต้องเจอกับมลภาวะต่าง ๆ ทั้งทางน้ำ ทางอากาศ และอาหารที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้ร่างกายของเราได้รับสารพิษจากมลภาวะเหล่านี้ทีละเล็กละน้อย แต่เคยสงสัยกันไหมว่าสารพิษเหล่านั้นหายไปไหน? คำตอบก็คือสารพิษเหล่านี้จะถูกดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าสู่กระแสเลือด และมุ่งหน้าไปยังโรงงานบำบัดที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายหรือก็คือ “ตับ” ของเรานั่นเอง


อย่างที่รู้กันดีว่าตับเป็นอวัยวะที่ต้องทำหน้าที่ต่าง ๆ มากมาย และการกำจัดสารพิษและบำบัดของเสียต่าง ๆ ผ่านทาง น้ำดี ปัสสาวะ และอุจจาระ ก็เป็นหนึ่งในหน้าที่อันสำคัญของตับ ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวนั้นจะทำกันผ่าน กระบวนการล้างสารพิษ โดยปกติแล้วจะมีอยู่ 2 ขั้นตอน และมีวิธีการทำงานดังนี้


กระบวนการกำจัดสารพิษของตับ

1. Oxidation ในระยะที่หนึ่งตับจะใช้ออกซิเจน และเอนไซม์ในการเผาผลาญสารพิษ โดยเอนไซม์จะถูกสร้างจากสารอาหารและวิตามินอีกหลายชนิด ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า “ออกซิเดชั่น” เป็นกระบวนการที่จะทำให้สารพิษสามารถละลายในน้ำได้ง่ายขึ้น เพื่อให้สามารถถูกขับออกทางไตได้ในภายหลัง เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วสารพิษทั่ว ๆ ไปจะละลายเฉพาะกับไขมันเท่านั้น จึงเป็นเรื่องยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกำจัดสารพิษเหล่านี้ออกโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตับ

อย่างไรก็ตามแม้ว่ากระบวนการออกซิเดชั่นจะเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญต่อการล้างสารพิษอย่างมาก แต่มันก็มีความเสี่ยงอยู่ เนื่องจากกระบวนการนี้ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระขึ้นในร่างกาย ซึ่งเราจะต้องใช้กระบวนการที่ 2 ในการขับสารพิษ และอนุมูลอิสระเหล่านี้ออกจากร่างกายนั่นเอง


2. Conjugation
กระบวนการในระยะที่ 2 มีไว้เพื่อจัดการกับสารพิษที่ถูกเปลี่ยนให้สามารถละลายน้ำได้แล้ว และอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากระยะแรก โดยระยะนี้ถูกเรียกว่า “คอนจูเกชั่น” ซึ่งจะเป็นการใช้กรดอะมิโนเฉพาะ และกลูตาไธโอนในการเปลี่ยนสารพิษให้กลายเป็นของเสียและขับออกทางไตรวมถึงลำไส้ใหญ่

ซึ่งกระบวนการในระยะที่ 2 นี้อาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าหากร่างกายขาดสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน เพราะจะทำให้ร่างกายไม่มีกลูตาไธโอนที่เพียงพอ นอกจากนี้การกินยาบางชนิดและการดื่มแอลกอฮอล์ก็มีส่วนในการยับยั้งกระบวนการคอนจูเกชั่นได้ด้วยเช่นกัน


จากข้อมูลที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่ากระบวนการกำจัดสารพิษของตับนั้นจำเป็นต้องใช้สารอาหาร และวิตามินจำนวนไม่น้อยในการดำเนินการ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการรับประทานอาหารให้ที่มีประโยชน์กับร่างกาย โดยเฉพาะสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงตับ หรืออาหารเสริมที่ดีกับตับเพื่อเป็นการช่วยตับอีกแรงนั่นเอง


เพราะในแต่ละวันเราแต่ละคนต่างต้องเผชิญกับมลภาวะรอบด้าน ทั้งฝุ่นควัน PM2.5 รวมไปถึงน้ำและอาหารซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีสารพิษปนเปื้อนอยู่หรือไม่ การเตรียมตัวให้พร้อมรับมืออยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยการดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรงอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้มีสุขภาพดีทุกระบบในร่างกายได้ไม่ยาก


ด้วยความปรารถนาดี
Interpharma Thailand

ProLivo Promotion


ดูแลตับให้แข็งแรงด้วย ProLivo โภชนเภสัชเพื่อการดูแลตับแบบครบวงจร รวมสารอาหาร สารสกัดจากธรรมชาติ วิตามินและแร่ธาตุมากถึง 20 ชนิด เพื่อบำรุง ปกป้อง และฟื้นฟูการทำงานของตับอย่างครบวงจร

– กรดอะมิโน 14 ชนิด และกรดอะมิโนแบบสายยาว (Branched Chain Amino Acids; BCAA) ที่ช่วยเสริมสร้างการเกิดเซลล์ตับใหม่ ช่วยสร้างโปรตีนและมวลกล้ามเนื้อ
– วิตามินบี 2 จำเป็นต่อเอนไซม์และกระบวนการสร้างของสารอาหารต่าง ๆ มีส่วนช่วยในการบำรุงตับ
– เคอร์คูมินและวิตามินอี เกราะป้องกันตับไม่ให้ถูกทำลาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และลดภาวะ Oxidative Stress ที่เป็นสาเหตุของการทำลายตับ
– อิโนซิทอลและโคลีน เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ตับ ช่วยฟื้นฟูการทำงาน ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันในตับ และลดคอเลสเตอรอล
– ซิลิเนียม เอนริชส์ ยีสต์ ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูการทำงานของตับ ต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

ProLivo สูตร Triple Action ดูแลตับครบวงจร ช่วยบำรุงและฟื้นฟูการทำงานของตับ ปกป้องตับไม่ให้ถูกทำลายจากแอลกอฮอล์และยา ช่วยลดอาการเมาค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1 กล่องบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,800 บาท โปรโมชั่นพิเศษ 2 กล่อง ราคาพิเศษ 3,000 บาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสามารถสั่งซื้อโดยตรงได้ 3 ช่องทาง ได่แก่
📞Call center : 094-956-9536
💻Inbox : m.me/interpharma.th
📱Line : @interpharma #แอดไลน์ด่วนคลิก https://lin.ee/huxD1c0
🛍Shopee : https://shopee.co.th/interpharma.official