ริ้วรอยมาจากไหน? รับมืออย่างไรให้ได้ผล

ริ้วรอยมาจากไหน? รับมืออย่างไรให้ได้ผล

ริ้วรอย รอยย่น รอยพับ หรือร่องลึกบนผิวหนัง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติเมื่อคนมีอายุมากขึ้น เป็นผลจากฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวัย ส่งผลให้ผิวบาง แห้งขึ้น และยืดหยุ่นน้อยลง จึงไม่สามารถป้องกันตัวเองจากความเสียหายจากการใช้ชีวิตได้เหมือนตอนเยาว์วัย บวกกับการที่ร่างกายไม่สามารถผลิตคอลลาเจนได้มากเท่ากับที่สูญเสียไป จึงนำไปสู่การเกิดริ้วรอย รอยย่น และร่องลึกบนผิวหนัง


โดยส่วนใหญ่แล้วรอยย่นมักจะเห็นได้ชัดในบริเวณที่เกิดการแสดงอารมณ์ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ได้รับแสงแดดมากที่สุด เช่น ใบหน้าและลำคอ หลังมือ และแขน ทั้งนี้ริ้วรอยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทดังนี้

  1. ริ้วรอยแบบชั่วคราว เป็นริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของใบหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงชั่วคราว เช่น รอยตีนกาเล็กน้อยเมื่อยิ้ม
  2. ริ้วรอยถาวร เป็นริ้วรอยที่เกิดจากการสูญเสียความยืดหยุ่นร่วมกับการหย่อนคล้อยของผิวหนังตามแรงโน้มถ่วง และการพัฒนาของริ้วรอยแบบชั่วคราว จนกลายเป็นริ้วรอยบนผิวหนังแบบถาวรจนไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาเรียบเนียนได้ตามเดิม

สาเหตุของริ้วรอยใกล้ตัวกว่าที่คิด

  • อายุ: ริ้วรอยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของกระบวนการชราภาพ โดยเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น ผิวจะบางลง แห้งขึ้น และยืดหยุ่นน้อยลง เพราะการสร้างคอลลาเจนไม่เพียงพอกับที่สูญเสียไป ซึ่งหมายความว่าจะไม่สามารถป้องกันตัวเองจากความเสียหายได้ นำไปสู่ริ้วรอย รอยย่น และเส้นบนผิวหนัง
  • การแสดงอารมณ์ทางสีหน้า: การยิ้ม ขมวดคิ้ว หรือหรี่ตา เป็นพฤติกรรมเคยชินของใครหลายคนที่นำไปสู่การเกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย จริงอยู่ว่าเมื่ออายุยังน้อยอาจจะยังไม่เห็นผลมากนัก แต่หากคุณอายุเริ่มขึ้นเลข 3 แล้ว ร่างกายจะเริ่มผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ผิวหนังจึงสูญเสียความยืดหยุ่นจนยากขึ้นที่ผิวจะเด้งกลับ ส่งผลให้เกิดร่องถาวรง่ายกว่าเดิม
  • โครงสร้างผิวหนัง: ริ้วรอยส่งผลต่อคนที่มีสีผิวต่างกันเนื่องจากความแตกต่างของโครงสร้างและหน้าที่ของผิว โดยงานวิจัยจากแหล่งที่เชื่อถือได้ บ่งชี้ว่าผิวหนังชั้นหนังแท้มีความหนาขึ้นในผิวหนังของคนผิวดำและคนเอเชีย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะช่วยป้องกันริ้วรอยบนใบหน้าได้
  • แสงแดด: การสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ถือเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของริ้วรอย เนื่องจากรังสียูวีจะทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง จึงทำให้ผิวอ่อนแอและมีความยืดหยุ่นน้อยลง ผิวจึงเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย
  • การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: การสูบบุหรี่เป็นประจำมีส่วนเร่งกระบวนการชราของผิว เพราะปริมาณเลือดที่ส่งไปยังผิวหนังมีจำนวนน้อยลง อีกทั้งแอลกอฮอล์ยังทำให้ผิวหนังขาดน้ำและแห้ง เมื่อร่างกายขาดน้ำจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยได้


เห็นได้ชัดว่ามีหลากหลายพฤติกรรมอันเป็นที่มาของริ้วรอย ดังนั้นส่วนสำคัญของการปกป้องให้ผิวปราศจากริ้วรอยให้ได้ช้าที่สุด ย่อมเป็นวิธีการป้องกันที่ดี ทั้งนี้ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณลดความเสียหายของผิวหนังจนกลายเป็นริ้วรอยได้ง่ายๆ ดังนี้

  • ปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะเพื่อไม่ให้ผิวโดนทำร้ายจากแสงยูวีและหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวเกิดออกซิเดชั่นจนกลายเป็นสาเหตุของริ้วรอย ตัวช่วยที่ดีคือ การทาครีมกันแดดปกป้องผิวและเลือกใช้สกินแคร์บำรุงผิวที่ที่มีสารต้นอนุมูลอิสระ
  • กินให้ดี เลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์: ทั้งหมดคือไลฟ์สไตล์ที่อาจทำให้คุณมีริ้วรอยได้ง่าย นอกเหนือจากการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์แล้ว การทานอาหารที่มีแป้งหรือน้ำตาลมากเกินไปก็สามารถเข้าทำลายคอลลาเจนใต้ผิวได้มากกว่าที่คุณคิด หากเป็นไปได้พยายามเลี่ยงอย่าตามใจปากมากเกินไป
  • เลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หรือแสดงออกทางอารมณ์อย่างรุนแรง เพราะการสัมผัสเสียดสี หรือแสดงออกของกล้ามเนื้อของใบหน้าอย่างรุนแรงอาจจะทำให้เกิดความเสียหายและกลายเป็นริ้วรอยถาวรได้
  • เติมคอลลาเจนให้ร่างกาย: เมื่อร่างกายผลิตคอลลาเจนได้ลดลง สวนทางกับปริมาณที่สูญเสียไป การทานคอลลาเจนเพิ่มจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งนี้การเลือกทานคอลลาเจนนั้นสามารถกินเป็นอาหารเสริมได้ 5,000 – 7,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่ควรเกิน 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้


ด้วยความปรารถนาดี

Interpharma Thailand